for the LORD gives wisdom

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

สมโภชนักบุญทั้งหลาย



วันอาทิตย์สมโภชนักบุญทั้งหลาย

บทความเทศน์
บาทหลวง สมเกียรติ ตรีนิกร



พี่น้องที่รัก ให้เราทุกคนชื่นชมยินดีในพระเจ้า ให้เราสมโภชนักบุญทั้งหลาย เหตุว่าวันนี้เป็นวันฉลองความหวังอันยิ่งใหญ่ของเรา เพราะว่าเรามีเป้าหมายสำคัญคือพระอาณาจักรสวรรค์ของพระบิดาเจ้าซึ่งเป็นบ้านแท้ของเราที่เราทุกคนใฝ่ฝัน การฉลองนักบุญทั้งหลายนี้เป็นดังเครื่องหมายแสดงความจริงแห่งความเชื่อที่สำคัญ คือ ชีวิตการจาริกบนโลกของเรานี้ไม่ใช่ที่สุด แต่ที่สุดคือเราจะต้องก้าวผ่านจากโลกนี้ ผ่านจากความตายไปสู่ชีวิตนิรันดร และที่สำคัญที่สุด เป็นการผ่านความตายโดยอาศัยความตายของพระเยซูเจ้า เพื่อจะกลับคืนชีพเช่นเดียวกับพระองค์
พี่น้องที่รัก ด้วยความหวังเช่นนี้ ให้เรารำพึงพระวาจาของพระเจ้าโดยผ่านทางจดหมายนักบุญยอห์นฉบับที่หนึ่งที่เราได้ยินวันนี้ว่า “พี่น้องที่รัก ในเวลานี้เราเป็นบุตรของพระเป็นเจ้าแล้ว แต่ภายหน้าเราจะเป็นอย่างไรนั้นยังมิได้ปรากฏแจ้ง เราทราบว่า เมื่อปรากฏแจ้งแล้ว เราก็จะเป็นเหมือนพระองค์ เพราะเราจะเห็นพระองค์ ดังที่พระองค์ทรงเป็นอยู่และทุกคนที่มีความหวังนี้ในพระองค์ย่อมทำตัวให้บริสุทธิ์ ดังที่พระองค์ทรงเป็นผู้บริสุทธิ์” ที่สำคัญคือ เราจะดำเนินชีวิตบริสุทธิ์หรือดำเนินชีวิตในความหวังนี้ได้อย่างไรกัน พ่อคิดว่าเมื่อเรามีความปรารถนาจะได้รับชีวิตนิรันดรพร้อมกับพระองค์ เราต้องเจริญชีวิตตามพระประสงค์ของพระองค์ หรือพูดง่ายๆ คือ เราต้องเจริญชีวิตตามแบบอย่างและหนทางของพระองค์นั่นเอง
พี่น้องที่รัก พ่อได้เริ่มด้วยตัวบทจดหมายนักบุญยอห์นเพื่อประกาศความจริงว่า ชีวิตของเราคริสตชนนั้นมีความหวังในชีวิตภายหน้าตั้งแต่สมัยแรกเริ่มแล้ว เพราะจดหมายนักบุญยอห์นนี้เขียนในสมัยแรกๆ ของพระศาสนจักร และดูเหมือนกลุ่มคริสตชนนั้นมีความหวังแน่วแน่ในชีวิตนิรันดร แต่การจะได้มาซึ่งชีวิตนิรันดรนั้นย่อมเกี่ยวเนื่องกับการเจริญชีวิตในโลกนี้ และดูเหมือนจำเป็นเหลือเกินที่จะต้องเจริญชีวิตในความเชื่อนั้นเอง
พี่น้องที่รัก พ่อเชื่อว่าเราต้องมีความหวังในชีวิตนิรันดรดังเช่นท่านนักบุญทั้งหลาย ซึ่งเราแต่ละคนล้วนมีนักบุญองค์อุปถัมภ์ด้วยกันทุกคน ทั้งนี้เพราะเราเชื่อว่าบรรดานักบุญเหล่านี้ที่ได้รับการรับรองจากพระศาสนจักรนั้นได้อยู่กับพระเจ้าในความสุขนิรันดร คำถามสำคัญคือทำไมพระศาสนจักรกล้ารับรอง อันที่จริงเราต้องยอมรับพระศาสนจักรมีอำนาจในการสอนความจริง แต่เราไม่ต้องพูดถึงเรื่องอำนาจหรอก เพราะที่สำคัญพระศาสนจักรใช้ความพยายาม เวลา และทุกสิ่งโดยเฉพาะการประกันด้วยอัศจรรย์ของบรรดานักบุญ ทั้งนี้เพื่อประกาศรับรองความศักดิ์สิทธิ์ของพวกท่าน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เพราะชีวิตของพวกท่านนั้นเป็นประจักษ์พยานว่า ชีวิตของบรรดานักบุญนั้นเป็นผู้ที่ดำเนินชีวิตในความหวังนี้อย่างชัดเจนตั้งแต่เมื่อยังอยู่ในโลกนี้แล้ว
ดังนั้นพี่น้องที่รัก สิ่งที่เราพึงกล่าวถึงในวันนี้ในโอกาสสมโภชนักบุญทั้งหลายคือ เราจะเจริญชีวิตอย่างไรเพื่อจะได้รับชีวิตนิรันดร แน่นอนที่สุด เรามีชีวิตนิรันดรเป็นกรรมสิทธิ์อยู่แล้วอย่างแน่นอนเพราะพระคริสตเจ้าเสด็จมา เพื่อจะทรงมอบให้กับเราโดยการรับทรมาน สิ้นพระชนม์และกลับคืนพระชนมชีพ การเสด็จมาของพระองค์เป็นการทำให้ชีวิตของเรามีความหวัง และให้ชีวิตนิรันดรนี้กับเราโดยการที่เราเข้ามามีส่วนร่วมในรหัสธรรมปัสกาของพระองค์ คือการรับศีลล้างบาป เพราะในศีลล้างบาปเป็นประตูแห่งการรับพระหรรษทานทั้งหลาย ซึ่งก็คือคือพระหรรษทานแห่งความรอดพ้นนั้นเอง แต่ประเด็นต่อมาที่สำคัญคือ นอกจากศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ที่เรามีแล้ว เราพึงเจริญชีวิตอย่างไรเล่า?
พี่น้องที่รัก พ่อขอตอบว่า เราต้องเจริญชีวิตติดตามรอยพระบาทของพระองค์ เจริญชีวิตตามพระวาจาและพระกิจการของพระองค์ กล่าวง่ายๆ คือ เราจะต้องดำเนินชีวิตโดย
• ทำสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงเคยกระทำเป็นการมอบพระแบบฉบับแห่งชีวิต และ
• ทำสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงสอนอย่างจริงจัง
พี่น้องที่รัก พ่อคงต้องนำพี่น้องให้รื้อฟื้นสั้นว่า สิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำคืออะไร? คำตอบคือ ทุกกิจการของพระองค์ที่เราพบในพระวรสาร ซึ่งแน่นอนเราได้พบกิจการมากมายเช่น ทรงรักคนยากจน ทรงสงสาร ทรงเมตตา ทรงให้อภัย ทรงรักษาคนทุพลภาพ ทรงสอนด้วยความรัก และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ทรงมอบชีวิตของพระองค์เพื่อเป็นค่าไถ่เราทุกคน
พี่น้องที่รัก สิ่งที่น่าจะต้องรำพึงเป็นพิเศษในวันนี้คือ อะไรคือสิ่งที่พระเยซูเจ้าสอนเพื่อเราดำเนินชีวิต? คำตอบที่สำคัญย่อมต้องมาจากสิ่งที่พระองค์ทรงสอนด้วยแบบอย่างชีวิตของพระองค์ และพระองค์ทรงสอนมากมายเช่นกัน แต่ว่าพ่อขอให้พี่น้องพิจารณาคำสอนแรกสุดที่สำคัญในพระวรสารนักบุญมัทธิวที่เราได้ฟังในวันนี้ ซึ่งพ่อถือว่านี่เป็นคำสอนแรกที่สำคัญอย่างมาก เพราะมัทธิวบันทึกอย่างระมัดระวังมีรายละเอียดดังนี้ คือ บนภูเขาอันสงบเงียบแต่เต็มด้วยผู้คนที่กำลังติดตามพระองค์ที่กาลิลี ท่ามกลางประชาชนมากมาย และบรรดาศิษย์เข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์ทรงประทับนั่ง ทรงเผยพระโอษฐ์ ทรงสอน และคำสอนแรกสุดที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์คือ คำว่า “Makarioi” ภาษากรีกที่มัทธิวบันทึกในพระวรสารซึ่งแปลว่า “ความสุขแท้”
พี่น้องที่รัก นี่คือถ้อยคำแรกที่ออกจากพระโอษฐ์ของพระองค์ เมื่อทรงสอนพระโอวาทบนภูเขา ซึ่งแต่เดิมเราเรียกว่า “บุญลาภ” หรือ “หนทางแห่งความสุข” พ่อเชื่อว่านี่เป็นคำสอนแห่งหนทางที่สำคัญที่สุด ดังนั้นเพื่อเราจะเจริญชีวิตตามพระวาจาที่พระองค์ทรงสอน พ่อขอเสนอการตีความ การรำพึง เฉพาะหนทางแห่งความสุขแท้นี้เพียงข้อเดียวจากที่พระองค์ทรงสอนในพระวรสารนักบุญมัทธิวในวันนี้ ทั้งนี้พ่อเชื่อว่านี่เป็นคำสอนสำคัญที่สุดที่ทุกคนต้องติดตาม และต้องมีอยู่เป็นรากฐานลึก และรากฐานแท้ของหัวใจและชีวิต
พี่น้องที่รัก คำสอนแรกสุดนี้คือ “ผู้ใดมีใจยากจนก็เป็นสุขเพราะเมืองสวรรค์เป็นของเขา” ซึ่งพ่อจะขอแปลใหม่ให้ตรงคำภาษากรีกต้นฉบับคือ “ความสุขแท้ แก่ผู้มีใจยากจน เพราะพระอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขา” ที่พ่อต้องแปลใหม่เพราะว่าในต้นฉบับนั้นคำแรกที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเยซูเจ้าคือ “Makarioi” แปลว่า “ความสุขแท้” ดังนั้นสิ่งที่พระองค์ทรงประกาศคือ “ความสุขแท้”
พี่น้องที่รัก ให้เรามุ่งหาความสุขแท้จริงโดยดำเนินชีวิตตามที่พระองค์สอนคือ “การมีใจยากจน” ซึ่งในพระวรสารนี้พ่อขออธิบายดังนี้ว่า คำว่า “ยากจน” ในที่นี้คือสภาวะของจิตใจ ซึ่งแน่นอน ในภาษากรีกต้นฉบับนั้นเราพบคำว่ายากจนนี้ใช้คำว่า “Ptochos” ซึ่งหมายถึง สภาวะที่ยากจนทางสภาพความเป็นอยู่อย่างถึงที่สุด ซึ่งหมายถึงบุคคลที่มีสภาวะต้องการความช่วยเหลือสนับสนุน จะไม่สามารถยังชีพอยู่ได้โดยขาดความช่วยเหลือ หรือการหยิบยื่นของคนอื่น ต้องอาศัยทานและการให้เท่านั้นจึงจะมีชีวิตรอดอยู่ได้ ถ้าขาดความช่วยเหลือดังกล่าวเขาไม่สามารถยังชีพหรือมีชีวิตได้โดยลำพังตนเองเลย
พี่น้องที่รัก คำสอนของพระเยซูเจ้าประการแรกเพื่อความสุขแท้ พระองค์ทรงประกาศถึงสภาพทางจิตใจแบบ Ptochos หมายความว่า ความสุขแท้เป็นของคนที่มีสภาวะจิตใจเชื่อมั่นในพระเจ้าว่าพระองค์สำคัญที่สุด เป็นสภาวะที่ประกาศว่า เขาเป็นอยู่ได้ มีชีวิตได้ก็เพราะพระเจ้า เป็นสภาพจิตใจที่มีความเชื่อมั่นในพระเจ้าอย่างสมบูรณ์ และเป็นการประกาศความเชื่ออันยิ่งใหญ่ว่า เขาขึ้นกับพระเจ้าและไม่สามารถขาดพระองค์ได้เลย การขาดพระเจ้า คือการขาดความสามารถที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป ดังนั้นคนที่มีใจยากจนแบบนี้คือ คนที่มีความเชื่อมั่นในพระเจ้าผู้เดียวว่าทรงเป็นบ่อเกิดของชีวิต เขาผู้มีใจยากจนก็คือ ผู้ที่รู้และยอมรับภายในจิตใจว่าถ้าขาดพระเจ้าเขาไม่อาจมีชีวิต
พี่น้องที่รัก จึงสรุปได้ว่า คำสอนแรกสุดของพระเยซูเจ้าคือ “ความเชื่อ” ผู้มีใจยากจนดังกล่าวจะได้รับพระอาณาจักรสวรรค์ นั่นหมายถึงอำนาจปกครองของพระเจ้า จิตใจของเขานั้นยอมรับถึงการที่เขาขึ้นอยู่กับพระเจ้าโดยถาวร และพระเจ้าเป็นผู้ให้ชีวิต จิตใจของเขาผูกพันกับพระเจ้า และพระเจ้าทรงครอบครองจิตใจของเขานั้นเอง
พี่น้องที่รัก นี่คือหนทางดำเนินชีวิตที่พระเยซูเจ้าสอนเพื่อเราจะสามารถรับพระอาณาจักรสวรรค์ของพระองค์ คือ “เราต้องมีความเชื่ออย่างมั่นคง เด็ดเดี่ยว และยอมรับความจริงแบบผู้มีจิตใจที่มีรากลึกอย่างแท้จริงว่า พระเจ้าสำคัญที่สุดสำหรับชีวิตของเรา” ซึ่งบรรดานักบุญทั้งหลายได้เจริญชีวิตเช่นนั้น และบรรดามรณสักขีทั้งหลายก็ยอมตายได้เพราะพวกท่านเชื่อว่าเสียชีวิตได้แต่ขาดความสัมพันธ์กับพระเจ้าไม่ได้เด็ดขาดนั้นเอง
พี่น้องที่รัก ในโอกาสที่เราฉลองนักบุญทั้งหลายของพระเจ้าให้เรารำพึงหนทางที่พระองค์ทรงสอน และบรรดานักบุญได้เจริญรอยตาม รวมทั้งพวกเราด้วยพึงเจริญชีวิตเพื่อพบความสุขแท้จริง ด้วยพลังแห่งความเชื่อของเรา พ่อจึงมีคำถามส่งท้ายดังนี้ว่า
• เรามีจิตใจ หมายถึง “สภาวะของจิตใจจริงที่อยู่ภายใน เป็นธรรมชาติของจิตใจแท้ๆ หรือธาตุแท้ของจิตใจของเรานั้น” มีความยากจนเพียงใด? หมายความว่า “เรามีความเชื่อเพียงใด” คือเชื่อว่า พระเจ้ามีความสำคัญสำหรับเราเป็นอันดับแรกเพื่อมีชีวิตหรือไม่?
• เราสามารถขาดพระองค์ได้หรือไม่ หมายความว่า เราแน่ใจว่า ชีวิตประจำวัน หน้าที่การงานที่เราทำอยู่นั้น จำเป็นที่จะต้องมีพระเจ้าประทับอยู่ด้วยเสมอ? หรือเรามีพระองค์เพียงเฉพาะบางเวลา หรือเฉพาะในภาวะจำเป็นของพระเจ้าเท่านั้น??
• เราแต่ละคนเป็น “บุคคลแห่งความเชื่อ” ต่อพระเจ้าและต่อเพื่อนมนุษย์หรือเปล่า?
• เรามีความเชื่อในพระอาณาจักรสวรรค์เพียงใด?? สวรรค์ “พระอาณาจักรของพระเจ้า” คือการที่พระเจ้าทรงครอบครอง ประทับอยู่กับประชากรของพระองค์ และการดำเนินชีวิตของเราทำให้ผู้อื่นเชื่อในพระอาณาจักรสวรรค์เพียงใด??

1 ความคิดเห็น:

  1. ขอขอบพระคุณอย่างสูงด้วยความเคารพ ความรัก และความนับถืออย่างมากที่สุดทีทำให้ผมรู้เรื่องอย่างมากขึ้นกับเหตุการณ์และการสวดวิงวอนขอ การให้อภัย และการขอบพระคุณพระเยซูเจ้าหลังรับศีลและอื่นๆอีกมากในระหว่างพิธีมิสซาและหลังพิธีมิสซา ขอสันติสุขสถิตกับท่าน สุกิจ รัชชพงศ์รักษ์ อ.งาว จว.ลำปาง

    ตอบลบ